พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน
ใกล้กันกับอนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์แบบพิเศษซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมสงวนรักษาและจัดแสดงวัตถุพิพิธภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการของทหารนาวิกโยธิน เพื่อใช้ประกอบการศึกษาค้นคว้าทางประวัติศาสตร์และการพัฒนาการของทหารนาวิกโยธิน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการศึกษาพิจารณายุทธศาสตร์ ยุทธวิธีและหลักนิยมในการรบของทหารนาวิกโยธิน เพื่อให้ทหารนาวิกโยธินข้าราชการทั่วไป ตลอดจนประชาชนที่สนใจได้เข้าชมเพื่อการศึกษาและได้รับความเพลิดเพลินในโอกาสเดียวกัน ความจริงกิจกรรมทางด้านพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธินนั้นอยู่ในความคิดชอบของทหารนาวิกโยธินมาช้านานแล้วแต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากติดขัดในเรื่องของงบประมาณและสถานที่ จนกระทั่งกองทัพเรือได้ประกาศเจตนารมณ์ด้านการประวัติศาสตร์กองทัพเรือเพื่อส่งเสริมภารกิจของกองทัพเรือ รวมทั้งได้วางกรอบและโครงการในระยะยาวในการพัฒนากิจการด้านประวัติศาสตร์ไปในทางที่ถูกต้อง และด้วยงบประมาณที่เหมาะสม โดยกำหนดแนวทางในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เฉพาะเรื่องของหน่วยขึ้นเพื่อสนองตอบเจตนารมณ์และนโยบายเฉพาะงานด้านประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการประวัติศาสตร์หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินที่ ๖๘/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๘ โดยคณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่ดำเนินการด้านประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธินและได้ขออนุมัติใช้อาคารสโมสรสัญญาบัตรเตยงาม ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีอายุกว่า ๖๐ ปี ที่ตั้งอยู่ชายทะเล มีภูมิสถาปัตย์ที่เหมาะสมและบริเวณใกล้เคียงเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน โดยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินเป็นผู้หางบประมาณมาดำเนินการโดยไม่ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากทางราชการแต่อย่างใด
เมื่อได้รับอนุมัติให้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ฯ เมื่อปลายปี ๒๕๓๙ ต้นปี ๒๕๔๐ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินได้อนุมัติเงินยอดจำหน่ายวัตถุมงคลจำนวน ๑ ล้านบาทเศษ เพื่อปรับปรุงสถานที่ และได้แต่งตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธินขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องราวและวัตถุพิพิธภัณฑ์ เพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์โดยคณะทำงานได้ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการประวัติศาสตร์หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ซึ่งการดำเนินกาดังกล่าวได้เป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากขาดงบประมาณ ดังนั้นหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินจึงได้ตั้งกองทุนพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธินขึ้น ซึ่งกองทุนนี้ในขั้นต้นได้มาจากข้าราชการ นักเรียนจ่า พลทหาร และลูกจ้าง สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ร่วมกันบริจาคตั้งเป็นกอทุนขึ้น ต่อมาทหารเรือนอกราชการ รวมทั้งพ่อค้า ประชาชน ที่เห็นความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์ได้ร่วมบริจาคเงินสมทบอีกจำนวนหนึ่ง
คณะกรรมการประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ และคณะทำงานประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ ได้ใช้กองทุนนี้ดำเนินการตกแต่งและจัดแสดงพิพิธภัณฑ์เรียบร้อยแล้วส่วนหนึ่ง สำหรับส่วนที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินจะได้ดำเนินการจัดหาทุนต่อไป ในส่วนที่เสร็จเรียบร้อยแล้วพอที่จะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินจึงได้เรียนเชิญ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ ผู้บัญชาการทหารเรือ มาเป็นประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๔๓ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
รูปแบบของพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธินเป็นการจัดวางและตั้งแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ยานพาหนะ เครื่องแบบของทหารนาวิกโยธิน รวมทั้งยุทธภูมิจำลองต่าง ๆ ซึ่งมีความสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทหารนาวิกโยธิน เพื่อแสดงถึงวิวัฒนาการของทหารนาวิกโยธิน กองทัพเรือ การรักษาอธิปไตยของประเทศนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีการแสดงภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับทหารนาวิกโยธิน โดยแบ่งการจัดออกเป็น ๒ พื้นที่ด้วยกันคือ ภายในอาคาร ภายนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน
โดยภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธินมีห้องสำหรับการจัดแสดงนิทรรศการจำนวน ๕ ห้องด้วยกัน
ห้องแรกคือห้องบรรยายสรุป เป็นห้องที่ใช้สำหรับบรรยายสรุปถึงประวัติความเป็นมาตลอดจนวิวัฒนาการของทหารนาวิกโยธินตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยจัดแสดงทางวีดิทัศน์และภาพถ่ายขนาดใหญ่แสดงถึงความเป็นมาของทหารนาวิกโยธินตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองและยุคใหม่หรือยุคปัจจุบัน บริเวณกึ่งกลางห้องจะเห็นสัญลักษณ์ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ตั้งอยู่บนฐาน ๘ เหลี่ยม ทำด้วยโลหะสีทองเป็นรูป ๓ มิติ มีลักษณะเป็นลูกโลกแผนที่ประเทศ สมอเรือ และมีพญาครุฑอยู่ด้านบน สวยงามมาก นอกจากนั้นรอบ ๆ ห้องยังประดับด้วยทิวธง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์หน่วยนาวิกโยธินต่าง ๆ รวมทั้งรูปอดีตผู้บัญชาการนาวิกโยธิน
ห้องที่สองคือห้องพระบารมีปกเกล้า จัดแสดงรูปภาพทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทหารนาวิกโยธินภายในห้องจะติดตั้งพระบรมสาทิศลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขนาดใหญ่ ทรงฉลองพระองค์ชุดสนามทหารนาวิกโยธินสีกากีแกมเขียวเป็นครั้งแรก ทรงนำธง "ราชนาวิกโยธิน" ปักไว้เหนือก้อนหินใหญ่ บริเวณอนุสรณ์สถานกลางหาดเตยงาม โน้ตเพลงพระราชนิพนธ์ มาร์ชราชนาวิกโยธิน จัดแสดงไว้ในตู้กระจกกลางห้อง บริเวณรอบ ๆ ห้องติดตั้งรูปภาพพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของทุกพระองค์ที่เกี่ยวข้องกับทหารนาวิกโยธิน
ห้องต่อมาคือห้องเครื่องแบบทหารนาวิกโยธิน เป็นห้องแสดงการแต่งกายเครื่องแบบทหารนาวิกโยธิน โดยใช้หุ่นแต่งเครื่องแบบชุดต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นชุดฝีพายเรือพระที่สั่ง ชุดสงครามอินโดจีน ชุดปราบฮ่อ ชุดทหารรักษาพระองค์ นอกจากนั้นยังได้จัดตู้แสดงเครื่องหมายยศของทหารเรือ เครื่องหมายความสามารถ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ห้องที่สี่คือห้องอาวุธยุทโธปกรณ์ ได้รวบรวมอาวุธประจำกายและอาวุธประจำหน่วยที่มีขนาดเล็ก รวมทั้งเครื่องมือสื่อสารตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบันที่ปลดจากประจำการแล้ว อาทิ ปืนมาตินี่ เฮนรี่ ปืนมันลิเคอร์ ปืนเมาเซอร์ ปืนรัชกาล เป็นต้น
ห้องสุดท้ายคือห้องยุทธภูมิ ซึ่งจัดแสดงยุทธการต่าง ๆ ที่ทหารนาวิกโยธินจัดกำลังเข้าปฏิบัติการทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก ได้แก่ ยุทธการสามชัย ยุทธการผาภูมิ ยุทธการกรุงชิง ยุทธการบ้านชำราก ยุทธการบ้านหาดเล็ก ยุทธการกองพลจันทบุรี ยุทธการปราบฮ่อ โดยได้จัดทำตู้แสดงซึ่งจะจัดฉากภาพการรบของยุทธการต่าง ๆ เป็นลักษณะ ๓ มิติ รวมทั้งตู้แสดงการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การฝึกการยุทธข้ามลำน้ำ
ส่วนภายนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธินเป็นการจัดแสดงอาวุธโบราณสมัยรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๖ อาวุธในช่วงสงครามอินโดจีน สงครามมหาเอเชียบูรพา และอาวุธในยุคปัจจุบันที่เลิกใช้แล้ว นอกจากนั้นยังจัดแสดงยานสะเทินน้ำสะเทินบก (นย.๑๐๒) ที่เคยใช้ในการแสดงการยกพลขึ้นบกของทหารนาวิกโยธิน ณ หาดบางแสน จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๗ ซึ่งเป็นวันกองทัพเรือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินโดยเรือหลวงแม่กลอง เพื่อทอดพระเนตรการยกพลขึ้นบกครั้งนี้ด้วย นอกจากนั้นยังได้จัดแสดงยานยนต์ขนาด ๑/๔ ตัน (นย.๑๐๐) ที่เคยเป็นรถพระที่นั่งทอดพระเจตรการฝึกยกพลที่หาดบ้านทอน จังหวัดนราธิวาส (ทักษิณ ๑๒) ยานยนต์ขนาด ๑/๔ ตัน ที่เคยเป็นรถประจำตำแหน่งของอดีตผู้บัญชาการนาวิกโยธิน ยานยนต์ขนาด ๑ ตัน สำหรับลากปืน ปบค. ๗๕ มม. และบานยนต์ขนาด ๒๑/๒ ตัน ที่เคยใช้สำหรับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ ๖๑
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น